นักเซิร์ฟหญิง

นักเซิร์ฟหญิง ที่เหลือแขนเพียงข้างเดียว กับใจที่เด็ดเดี่ยวไม่ย่อท้อกับชะตาชีวิต

นักเซิร์ฟหญิง ที่เป็นแรงบันดาลใจของหลายคน เพราะเธอสูญเสียหนึ่งข้างตั้งแต่วัยเด็ก

นักเซิร์ฟหญิง เบธานี่ แฮมิลตัน นักเซิร์ฟ ภาษาอังกฤษ เหลือแขนเพียงข้างเดียวเกิดจากถูกฉลามกัดเพียงแค่อายุ 13 ปีแต่ยังไม่ย่อท้อให้กับท้องทะเล นักเซิร์ฟ หรือ นักโต้คลื่น เป็นอีกหนึ่งอาชีพกีฬาทางน้ำที่คนรุ่นใหม่ ที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้

พูดได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น ที่ได้โลดแล่นบนท้องทะเลที่มีเกลียวคลื่น แม้จะทราบกันดีว่าการพาตัวไปใกล้ชิด กับธรรมชาติมากเกินไป อาจเป็นความเสี่ยงที่อันตรายจะมาสู่ตัวเองอย่างไม่ได้คาดคิดมาก่อน

เบธานี่ แฮมิลตัน เธอคือหญิงสาวที่ได้เจอประสบการณ์ นักกีฬาเซิร์ฟบอร์ด ที่เป็นเหมือนฝันร้ายของตนเอง เพราะเธอได้สูญเสียแขนข้างซ้ายทั้งที่มีอายุเพียง 13 ปี สาเหตุเกิดจากปลาฉลามเสือที่ดุร้าย นั่นได้กระชากแขนของเธอ ราวกับการที่มนุษย์แร่เนื้อสเต็กแต่กลับจะจมอยู่ในฝันร้ายด้วยความฝันที่ตั้งมั่น และศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า

นักเซิร์ฟหญิง

เบธานี่ กลับมายืนได้อีก และยังคงยืนหยัดบนแผ่นเซิร์ฟตลอดไป และยังเดินทางเพื่อสร้างกำลังใจให้กับคนทั่วโลก นักกีฬาเซิร์ฟบอร์ดหญิง เบธานี่ แฮมิลตัน เกิดและเติบโตท่ามกลางครอบครัวนักเซิร์ฟ

ทอม และ เชอรี่ พ่อกับแม่ของเธอได้ย้ายถิ่นฐาน เดินทางมายังรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะชื่นชอบเล่นแผ่นเซิร์ฟบนผืนทะเล โดยทั้งคู่ได้พบเจอและแต่งงานกันในเวลาต่อมา

ถือว่าไม่น่าแปลกใจที่ลูกสาว หัวแก้วหัวแหวนของพวกเขา จะชื่นชอบการโต้คลื่นเช่นเดียวกันไม่ต่างจากหลายคนบนเกาะฮาวาย ครอบครัวของเธอไม่ได้มีฐานะร่ำรวย อีกทั้งยังทำงานหนักตัวเป็นเกลียว โดยพ่อของเธอเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่ภัตตาคารหรู ส่วนแม่ของเธอทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟตอนกลางคืนเช่นกัน

สิ่งที่น่าชื่นชมคือทั้งคู่ไม่บังคับให้ลูก จะต้องตั้งใจทำงาน หรือ ตั้งใจเรียน ตามลูกบ้านอื่นเลย ทอมและเชอรี่สนับสนุนให้ลูก ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง เบธานี่จึงได้เริ่มหัดเล่นเซิร์ฟ

ตั้งแต่อายุได้เพียง 3 ขวบ และเมื่ออายุได้ 9 ขวบ เธอเริ่มที่จะแข่งขันในรายการรุ่นเยาวชนเป็นครั้งแรก แล้วพรสวรรค์ของเธอก็สะดุดตาอย่างเห็นได้ชัด จนมีบริษัทเข้ามาสนับสนุนเพียงอายุแค่ 9 ขวบ

 

เบธานี่ตั้งใจฝึกฝน ในการโต้คลื่นอย่างหนัก ถึงขั้นตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนในตอนนั้น เพื่อมาเรียนอยู่ที่บ้านตัวเอง เพื่อจะได้มีเวลาในการฝึกซ้อมและเล่นเซิร์ฟตามที่ต้องใจ อีกทั้งความสามารถที่มีมาตั้งแต่เกิด รวมกับการฝึกฝนอย่างแน่วแน่

เบธานี่ Bethany Hamilton ได้รับเลือกเป็นสมาชิกทีม Hanalei Surf ซึ่งในเดือนพฤษภาคม ปี 2004 นักกีฬาเซิร์ฟ เธอจะได้รับชนะเลิศในรุ่นเยาวชน และรุ่นทั่วไป

ในการแข่งขันรายการ Hawaii’s Local Motion/Ezekiel Surf และในเวลาต่อมา เธอก็ได้รางวัลอันดับสองจากรายการแข่งขัน แห่งชาติของสมาคมโต้คลื่นวิชาการแห่งชาติ (National Scholastic Surfing Association) หรือ NSSA

มาจนถึงตอนนี้จะเห็นว่า เส้นทางนักเซิร์ฟของเธอในตอนนั้น ที่จะได้มีเส้นทางสดใส นอกจากนั้นเธออาจจะได้ไปเป็นอันดับต้น ในวงการโต้คลื่นอย่างแน่นอน

และไม่มีใครคาดคิดว่าเพียงไม่กี่เดือนต่อมา ชีวิตของเธอจะพลิกผันไปตลอดกาล เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนั้นเกิดขึ้น โดยคมเขี้ยวของปีศาจฉลามดุร้าย ที่แหวกว่ายกลางท้องทะเล

นักเซิร์ฟหญิง

เบธานี่ ในวัยเพียง 13 ปี กับเหตุการณ์ฝันร้าย ที่เปลี่ยนแปลงชึวิตของเธอไปตลอดกาล

ตอนเช้าในวันที่ 30 ตุลาคม 2003 เธอได้ออกไปเพื่อฝึกฝน เหมือนกับทุกวันโดยตลอดนั่นคือการฝึกเซิร์ฟ เธอได้ออกเล่นที่ชายหาดทันเนิล (Tunnels Beach) พร้อมกับครอบครัวของเพื่อนสนิท

โดยมีทั้งคุณพ่อ, พี่ชาย และ อลันนา แบลนชาร์ด เพื่อนสนิทเธอ จากนั้นเธอได้ออกไปเล่นเซิร์ฟตามปกติ โดยไม่รู้สึกถึงความผิดปกติในคลื่นทะเล ความไม่ได้คาดคิด เธอได้นอนราบลงกับแผ่นเซิร์ฟ ซึ่งเอาท้องแนบไปกับผืนน้ำ และหยอกล้อกับเพื่อนอย่างผ่อนคลาย

แต่ทันใดนั้นเอง เธอก็รู้สึกถึงแรงกระชากอย่างรุนแรงบริเวณแขนซ้ายของเธอ และในเวลาต่อมาไม่นาน แขนของเธอก็ถูกกระชากจนฉีกออกไป นั่นคือฉลามดุร้ายที่แหวกว่ายอยู่ในพื้นทะเล

“ฉันกอดเซิร์ฟของตนเองไว้แน่นในตอนนั้น เนื่องจากฉันกลัวจะถูกดึงลงไปในทะเล แต่ที่จริงแล้วก็คล้ายกับว่าฉันถูกดึงไปทั่ว แค่ยังไม่ถูกดึงลงไปใต้คลื่น “ เบธานี่ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ ที่พลิกชีวิตเธอไปตลอดกาล

เจ้าปีศาจตัวนั้นที่โจมตีเธอ นั่นคือปลาฉลามเสือ ขนาดความยาวราว 15 ฟุต หรือ 4.5 เมตร ซึ่งปลาฉลามเสือ เรียกได้ว่าคือปลาฉลาม ที่มีความดุร้ายกับคนมาก เนื่องจากมีความดุร้าย อีกทั้งมีลักษณะการกินทุกอย่างที่ขวางหน้า มีการรายงานแหล่งที่มีปลาฉลามเสือทำร้ายคนมากที่สุด พบได้บ่อยนั่นก็คือ เกาะฮาวาย

เบธานี่ได้เล่าต่ออีกว่า เธอเกือบไม่มีความรู้สึกเจ็บเลยสักนิดในเวลานั้น แต่สิ่งที่ทำให้เบธานี่ได้รู้ว่าตัวเอง มีฉลามเข้ามากระชากแขน คือน้ำทะเลแถวนั้นที่กลายเป็นสีเลือดไปทั่ว

อีกทั้งสีหน้าของเพื่อนสนิทเธอ ที่มีอาการตกใจมาก และได้มองมาตรงแขนซ้ายของเบธานี่ ซึ่งตอนนั้นถูกกระชากขาดจนเกือบถึงหัวไหล่ ครอบครัวเพื่อนสนิทของเธอเป็นผู้ที่ช่วยพา เธอกลับขึ้นมาอยู่ชายฝั่ง และพาเธอไปส่งโรงพยาบาลวิลค็อกซ์ เมโมเรียล (Wilcox Memorial Hospital)

ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพราะคุณพ่อของเบธานี่ก็อยู่ในโรงพยาบาลนี้เหมือนกัน เพราะว่ามีคิวผ่าตัดหัวเข่าในตอนเช้าของวันนั้นพอดี กลายเป็นว่าการผ่าตัดของพ่อจะต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากเหตุการณ์ที่ลูกสาวกำลังตกอยู่ในอันตรายสำคัญมากกว่า

แพทย์ที่รักษาให้กับเบธานี่แจ้งกับพ่อแม่ของเธอว่า เบธานี่ เสียเลือดไปเยอะมากเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้เธอมีอาการช็อก เนื่องจากร่างกายเสียเลือดอย่างมาก (hypovolemic shock) และต้องได้รับการผ่าตัดอีกหลายหนเลยทีเดียว

แต่เธอก็แสดงออกมาถึง ความเข้มแข็งอย่างน่าทึ่ง ทั้งภายนอกและภายใน เมื่อร่างกายเบธานี่เริ่มจะดีขึ้น สามารถกลับไปดูแลตัวเอง ที่บ้านใช้เวลาแค่ไม่นาน เธอมีชีวิตรอดจากฝันร้าย จากฉลามที่ดุร้ายมาได้ และมีประเด็นสำคัญที่ตามมาหลังจากนี้ โดยเหตุการณ์ที่น่ากลัวในท้องทะเล และอุบัติเหตุที่พลิกชีวิตเธอไปตลอดกาล

ข่าวฉลามทำร้ายเด็กหญิงเกิดขึ้นที่เกาะฮาวาย กลายเป็นข่าวดังทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในตอนนั้นเธอกำลังดูแลรักษาตัวอยู่ที่บ้านตัวเอง ซึ่งมีกำลังใจที่ดีมาก

และยังยิ้มรับทักทายกับคนที่มาเยี่ยม ทั้งหลายที่แวะเวียนเพื่อให้กำลังใจ รวมถึงนักข่าวที่คอยตั้งคำถามกับอนาคตความฝันของเธอว่า “ผู้หญิงที่เหลือแขนข้างเดียวจะเล่นเซิร์ฟได้อยู่หรือไม่” “ได้ค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ ทุกครั้งที่คนถามถึงเรื่องดังกล่าว

ซึ่งในความเป็นจริง มันเป็นเรื่องยากที่ต้องพูดถึงเหตุการณ์ที่เลวร้ายนี้ อย่างเปิดเผยกับคนอื่น เพราะถึงแม้เธอจะยืดหยัดในความฝัน กับอาชีพนักโต้คลื่น ซึ่งนิสัยของเธอนั่นจะไม่ค่อยพูด คำถามของสื่อมวลชนมากมาย ถือว่าเป็นอะไรที่สาหัส ครอบครัวของเบธานี่จึงเคยตัดสินใจ พาเธอไปพักรักษาตัวที่บ้านของเพื่อน

มาถึงวันหนึ่งที่พ่อของเธอได้คิดขึ้นมาว่า “ทุกคนควรลุกเดินต่อไปและแชร์เรื่องราวพวกนี้ให้ทุกคนทราบ หรือจะพาลูกสาวหลบ จากสังคมตลอดไป ?” ​ด้วยความเชื่อที่มีอยู่มากล้นในพระผู้เป็นเจ้า เพราะว่าครอบครัวของเขานับถือคริสเตียนนั่นเอง

เบธานี่เห็นด้วยกับการแชร์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอเอง ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เธอจะได้ทำประโยชน์ต่อผู้อื่น นั่นก็คือการให้กำลังใจ กับผู้ที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ร้าย แต่ยังลุกขึ้นยืนและก้าวเดินต่อไป อีกทั้งยังเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ตัวเอง

เบธานี่ เธอผู้มีจิดใจที่เข้มแข็ง และมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตัวเองรักต่อไป อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลาย ๆ คน

เธอแบ่งปันความคิดที่ทำให้เธอหลุดพ้นความกลัว และหวนคืนสู่พื้นน้ำได้อีกครั้งแม้จะยังมีรอยแผลเป็นอยู่ตรงแขนข้างซ้าย ทั้งที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่โหดร้ายมาได้เพียงไม่กี่เดือน

เธอได้กลับไปยืนเล่นเซิร์ฟบนพื้นน้ำได้อีกครั้ง ซึ่งเธอได้ใช้ความพยายามเพียงสามรอบ ทำให้กลับมาเล่น เซิร์ฟบอร์ด ได้เหมือนเดิม

ถึงแม้ว่าการทรงตัวของร่างกายจะไม่เหมือนเดิม เพราะว่าเธอเหลือแขนแค่หนึ่งข้าง เธอใช้เวลาอยู่หลายอาทิตย์ ในการพยายามยืนบนบอร์ด จนกระทั่งสามารถเล่นเซิร์ฟขนาดเล็กได้อีกครั้ง

เบธานี่ใช้ความพยายามกลับสู่เส้นทางเดิม ก็คือการคว้าชัยชนะในรายการแข่งขัน หลังจากห้าเดือนหลังจากเธอถูกฉลามทำร้าย เธอยังได้รางวัลอันดับ 5 ในการลงแข่งขันรุ่นเยาวชน

ในรายการแข่งขันแห่งชาติของสมาคมโต้คลื่นวิชาการแห่งชาติ และหลังจากนั้น เธอได้ชนะอันดับหนึ่งในการแข่งขันเดียวกันในปี 2005 ในตอนนั้นเธออายุได้ 15 ปี

ในปี 2008 เธอเข้าร่วมการแข่งขันในรุ่นมืออาชีพ อีกทั้งยังมาเป็นนักเซิร์ฟอาชีพมาจนปัจจุบันนี้ ซึ่งในปี 2009 เธอได้ไต่ระดับเป็นนักเซิร์ฟติดอันดับ 10 ของประเทศสหรัฐอเมริกา

ซึ่งในปัจจุบันนี้ชีวิตของเธอไม่ได้มีเพียงเซิร์ฟ และเกลียวคลื่นอีกต่อไป เพราะเรื่องราวที่ได้สร้างกำลังใจของเธอ ได้เป็นเรื่องราวตัวอย่างของคนส่วนใหญ่ และเธอได้มีหนังสือที่พูดถึงประวัติของเธอด้วย

ก่อนที่เหตุการณ์ของเธอจะได้มาเป็นเรื่อง Heart of a Soul Surfer ได้ออกอากาศในปี 2008 และยังมาสร้างเป็นภาพยนตร์ชีวิตเรื่อง Soul Surfer ที่เข้าฉายในปี 2012 ซึ่งทำรายได้ถึง 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เบธานี่ ยังเปิดสอนแบบออนไลน์ที่เรียกว่า Unstoppable เพื่อแนะนำคนทั่วไปที่อยากจะข้ามผ่านอุปสรรค และไปถึงเป้าหมายของตนเอง

ปัจจุบัน เบธานี่ ได้เดินสายไปในหลายประเทศ ไม่ใช่เรื่องการเล่นเซิร์ฟที่พื้นน้ำแห่งใหม่และไม่ใช่เพื่อ เซิร์ฟสเก็ต แต่เพื่อมาคอยแนะนำสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับผู้คนหลายประเทศทั่วโลก เช่น แอฟริกาใต้ หรือ ยุโรป นอกจากนั้นเธอยังเคยมาที่ประเทศไทยอีกด้วย เพื่อช่วยเหลือประชาชนจากเหตุการณ์สึนามิ ในปี 2004

เบธานี่ ปัจจุบันในอายุ 31 ปี ยังอาศัยอยู่บนเกาะฮาวาย เหมือนตอนที่เธอใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว แต่มีเรื่องที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ ปัจจุบันเธอมีครอบครัวของตัวเองแล้ว

เธอยังมีสามีพร้อมกับลูกสามคน ที่ยืนหยัดอยู่เคียงข้างเธอไปตลอด ระหว่างทางสู่ความตั้งใจในฐานะนักเซิร์ฟอาชีพ ที่ยังคงไม่ล้มเลิกความพยายามนี้

ถือได้ว่าเป็นเรื่องราวที่เป็นกำลังใจ ของนักโต้คลื่นในสหรัฐอเมริกา กีฬาเซิร์ฟบอร์ด ที่ไม่ย่อท้อกับความฝัน แม้ต้องเจอเหตุการณ์ที่เป็นเหมือนฝันร้ายในชีวิต

อีกทั้งยังให้บทเรียนให้หลายคนได้ตระหนักถึง ว่าหากมีทางให้เลือก ระหว่างลุกขึ้นสู้หรือยอมแพ้ อย่าลังเลที่จะเลือกทางแรก และลุกขึ้นยืนเพื่อทำความตั้งใจของตัวเองอีกครั้ง

เรียบเรียงโดย อลิส